บาคาร่าเว็บตรง

เว็บพนันออนไลน์





10 นินจาในตำนาน ที่ปรากฎตัวในการ์ตูนดัง!!

 alt=


นินจา หมายถึงกลุ่มสายลับ มือสังหาร ลึกลับ ไร้ร่องรอย ในช่วงสมัยเปลี่ยนการปกครองของประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะยุคซันโกคุที่นินจามีบทบาทมาก หากซามุไรเปรียบเหมือนนักสู้ที่ต่อสู้เบื้องหน้า นินจาก็เป็นนักสู้ที่ต่อสู้เบื้องหลัง และนั้นเองทำให้เรื่องของนินจาถูกบันทึกน้อยมาก ส่วนมากเรื่องของพวกเขาถูกแพร่หลายเป็นจำนานเรื่องเล่า ไม่ก็ตำนาน และแน่นอนว่า 10 อันดับนินจาในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นหลายเรื่องยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่
(ปล. ภาพบางภาพที่นำมาอาจทำให้หลายคนรับไม่ได้ ถึงขั้นด่าเจ้าของบทความได้ โปรดใช้สติในการรับชม)

10. คิโด้ ซาเอะม่อน (Kido Yazaemon)

ตัวละครจากการ์ตูนเรื่อง Nobunaga the Fool

คิโด้ ซาเอะมน เป็นนินจาอิงะ เกิดในปี 1539 เขาเป็นคนเห็นประสิทธิภาพปืนไฟทาเนกาชิม่า (ทาเนกาชิม่าเป็นชื่อเกาะของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่แรกที่เริ่มนำอาวุธปืนไฟมาใช้ และสอนผลิตในเกาะแห่งนี้) ว่ามันดีและมีประสิทธิภาพเพียงใด ดังนั้นเขาเลยกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญการใช้ปืนไฟ Teppo Jutsu (หมายถึง “ศิลปะของปืนไรเฟิล”) แม้ว่าปืนไฟไม่ใช่อาวุธของนินจาก็ตาม นอกจากนี้เขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญวัตถุระเบิด สามารถสร้างระเบิดในรูปแบบต่างๆ เช่น เปลือกไข่ และกล่อง และยังเก่งวิชาพ่นไฟ (หรือ Katon-nojutsu) อีกทั้งยังถนัดลอบสังหารด้วย

โดยวีรกรรมที่มีชื่อเสียง คือการลอบสังหารโอดะ โนบุนากะในปี 1579 ด้วยปืนไฟ แม้ว่ามันจะล้มเหลว แต่มันก็เพียงพอในจดจำ จนถึงบันทึกไว้ใน Iranki เอกสารประวัติศาสตร์เกี่ยวกับนินจา และสุดท้ายเขาพลาดถูกโนบุนากะจับได้และถูกฆ่าพร้อมกับสหายทั้งเจ็ดของเขา

9. คิริงาคุเระ ไซโซ (Kirigakure Saizo)

ตัวละครจากการ์ตูนเรื่อง Brave10

คิริงาคุเระ ไซโซ เป็นตัวละครที่หลายคนรู้จักกันดี ในฐานะแรงบันดาลใจตัวละครคนหนึ่งในการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง BRAVE 10 ซึ่งเป็นหนึ่งใน 10 นักรบผู้กล้าที่ถูกรวบรวมโดยซานาดะ ยูกิมุระ ในช่วงยุค ค.ศ. 1600 ในยุคสงครามเซ็นโกคุ โดยตำนานเล่าว่าเขาเป็นนินจาที่พยายามลอบโทโยโทมิ ฮิเดโยชิด้วยการยื่นหอกไม้ไผ่ทะลุพื้นหวังแทงฮิเดโยชิยืนอยู่ด้านบน

แม้ว่าความพยายามลอบสังหารล้มเหลว แต่ไซโซได้รับการไว้ชีวิตโดยการยื่นเงื่อนไขว่าเขาจะต้องจงรักภักดีต่อตระกูลโทโยโทมิ ในขณะที่บางตำนานบอกว่าเขาเป็นเพียงนินจาสอดแนมฮิเดโยชิเท่านั้น โดยเขาเก่งเรื่องการใช้วิชาหมอกและการสร้างภาพลวงตา เรื่องราวของไซโซยังคงเป็นที่ถกเถียงว่ามีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ บ้างก็ว่าเขาดัดแปลงมาจากนินจาคิริงาคุเระ ชิคาเอม่อน นินจาสมัยยุคเมจิ ภาพลักษณ์ของเขาเป็นชายหนุ่มตัวใหญ่ รูปหล่อ ที่สาวๆ ต่างหลง

8.โทโมะ สุเคซาดะ (Tomo Sukesada)

โทโมะ สุเคซาดะ เป็นโจนิน (นินจาต้นแบบ) ของโคงะ ที่ถูกเรียกตัวในปี 1562 โดยโทคุงาวะ อิเอะยะสุ ซึ่งตอนนั้นทำงานให้กับโอดะ โนบุนากะ และต้องทำการตีปราสาท คามิโนโจ (Kaminojo) ซึ่งเป็นเป็นของตระกูลอิมาคาวะ (อิเอะยะสุเคยรับใช้ตระกูลอิมาคาวะมาก่อน หากแต่หลังพ่ายแพ่ในการรบกับโอดะเมื่อสองปีก่อน ทำให้เขาต้องมารับใช้โนบุนากะ) ซึ่งเป็นปราสาทที่มีตำแหน่งยุทธศาสตร์ที่ดีมาก เพราะตั้งอยู่ในหน้าผาทำให้ยากที่ฝ่ายตรงข้ามจะบุกเข้าไปถึง ทำให้ทหารของโทคุงาวะได้รับความเสียหายอย่างหนัก

การตีปราสาทเป็นไปได้ยากสำหรับอิเอะยะสุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ตระกูลอิมาคาวะได้นำครอบครัวของเขาเป็นตัวประกัน แต่ในคืนที่ 15 ของเดือนที่สาม สุเคซาดะได้นำนินจาโคกะ 80 คนแทรกซึมเข้าไปในปราสาทของอิมาคาวะ และไปยังหอไฟทำให้เขาฆ่าทหารยามถึง 200 คน ส่งผลทำให้อิเอะยะสุชนะในที่สุด เหตุการณ์ที่ว่านั้นถูกบันทึกไว้ใน Mikawa Go Fudoki (บันทึกของตระกูลโทคุงาวะ) ซึ่งอิเอะยสุได้ยกย่องเขาเป็นอย่างมาก ในฐานะผู้นำนินจาในประวัติศาสตร์

7.ฟุจิบายาชิ นางาโตะ (Fujibayashi Nagato)

เพน นางาโตะ จากการ์ตูนเรื่อง Naruto

ตามตำนานของฟุจิบายาชิ นากาโตะ เป็นหนึ่งในสามนินจาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอิงะ ร่วมกับโมโมชิ ซันดายุ และฮันโตริ ฮันโซ และนอกจากนี้เขายังเป็นหัวหน้าของนินจาฮิงะร่วมกับโมโมชิ ซันดายุ อย่างไรก็ตามเรื่องราวของเขาไม่ค่อยมีการกล่าวถึงมากนัก ในปี 1581 โอดะ โนบากะได้ทำการบุกเมืองอิงะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักนินจาอิงะ สงครามครั้งนั้นได้ทำลายอิงะและโคงซึ่งเป็นตระกูลนินจาที่มีชื่อเสียงไป แต่ผู้รอดชีวิตก็ได้เข้าไปรับใช้โอคุงาวะ อิเอะยาสุ และนากาโตะก็ถูกฆ่าตัวตายในสงคราม

แม้ว่าเรื่องราวของนากาโตะจะมีน้อยหลายคนไม่รู้จัก แต่นากาโกตะได้ทิ้งมรดกสำคัญให้ลูกหลานของเขา นั่นคือความรู้เกี่ยวกับนินจา ซึ่งลูกหลานของเขาได้รวบรวมมันจนกลายเป็นชุดหนังสือที่เรียกว่า “Bansenshukai” (แปลว่า หมื่นแม่น้ำไหลลงทะเล) ซึ่งรวบรวมเกี่ยวกับศาสตร์นินจา ไม่ว่าจะเป็นปรัชญา, กลยุทธ์ทางการทหาร, โหราศาสตร์ และอาวุธ สืบทอดจนถึงทุกวันนี้

6.โมจิซุกิ จิโยมิ (Mochizuki Chiyome)

โมจิซุกิ จิโยมิเป็นคุโนะอิจิ (นินจาหญิง) ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ตามประวัติ เธอเป็นภรรยาท่านหญิงของขุนศึกซามุไรโมจิซุกิ โนบุมาซะ (Mochizuki Nobumasa) ว่ากันว่าเธอมีพื้นเพมาจากตระกูลนินจาโคงะ ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 16 สามีของเธอไปสงคราม และจิโยมิถูกทิ้งอยู่ในการดูแลของลุงสามีซึ่งเป็นไดเมียวที่มีชื่อเสียงแห่งยุคคือทาเกดะ ชิงเง็น (Takeda Shingen) และหลังจากนั้นจิโยมิได้ภารกิจหาพวกผู้หญิงเข้าสังกัด และฝึกอบรมพวกเธอให้กลายเป็นนินจาจารกรรมหญิง โยงใยเป็นเครือข่ายใต้ดิน
จิโยมิตั้งสำนักงานใหญ่ที่หมู่บ้านนาซู ในภูมิภาคชินชู และได้ทำการคัดเลือกเด็กสาวได้ถึง 300 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กกำพร้า อดีตโสเภณี และผู้ประสบภัยสงคราม ในขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่เชื่อว่าจิโยมิทำงานสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอย่างไม่เป็นทางการ แต่ความจริงแล้วเธอทำการฝึกฝนเด็กสาวเหล่านั้นให้กลายเป็นนินจาที่มีเครือข่ายจารกรรมที่ซับซ้อน โดยเด็กสาวเหล่านั้นปลอมตัวเป็น มิโกะ (นักบวชประจำศาลเจ้าชินโต) โสเภณี หรือเกชิอา เพื่อจุดประสงค์ในการจารกรรม หรือลอบสังหารศัตรูของฝ่ายตน ซึ่งเธอทำหน้าที่เหล่านี้นานหลายปีก่อนที่จะเสียชีวิตอย่างลึกลับในปี 1573

5. อิชิคาวา โกเอมอน (Ishikawa Goemon)

ประวัติชีวิตจริงๆ ของอิชิคาวา โกเอมอนนั้นมีน้อยมาก สิ่งที่หลายคนรู้คือเขาเกิดในปี 1558 เป็นจอมโจรที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่เขาชอบขโมยทองคำและของมีค่าไปแจกคนยากจน เหมือนโรบินฮู้ด ส่วนประวัติชีวิตก่อนหน้านั้นไม่มีรายละเอียดมากนัก ว่ากันว่าเดิมเขาเป็นเกะนิน (นินจาฝึกหัด) สังกัดของโมโมชิ ซันดายุ ก่อนที่จะกลายเป็นนินจาหลบหนี

โกเอมอนเป็นผู้นำกลุ่มโจรนในคันไซและปล้นต่อเนื่อง เป้าหมายเป็นขุนนางศักดินาร่ำรวย และพ่อค้า และเมื่อปล้นไปได้ก็แจกจ่ายชาวบ้านที่กดขี่ อย่างไรก็ตามชื่อเสียงของเขาที่หลายคนจดจำก็คือ เขาพยายามลอบสังหารโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ เพื่อล้างแค้นให้ภรรยาแต่ทำไม่สำเร็จ จึงประหารโดยการถูกประหารชีวิตด้วยการถูกต้มลงน้ำเดือดจนตายพร้อมกับลูกชายห้าขวบ (อีกตำนานบอกว่าลูกสาว) ต่อหน้าสาธารณชน ในปี 1594 ตำนานกล่าวไว้ว่าโกเอมอนได้อุ้มลูกชายเหนือน้ำจนกระทั่งตัวตาย อ่างอาบน้ำที่มีรูปทรงกะทะในประเทศญี่ปุ่นได้ตั้งชื่อตามว่า เกโอมอนบุโระ

4.โมโมชิ ซันดายุ (Momochi Sandayu)

โมโมจิ ซาบุสะ ตัวละครที่ใกล้เคียงกับนินจาท่านนี้

อย่างที่บอกเอาไว้โกเอม่อนเคยเป็นลูกศิษย์นินจาสังกัดของโมโมชิ ซันดายุ ก่อนที่จะกลายเป็นนินจาหลบหนี ซึ่งโมโมชิ ซันดายุ เป็นหนึ่งในนินจาที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ที่เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งอิงะ และยังเป็นสามผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของอิงะ ควบคุมโดยกลุ่มนินจาสามตระกูลใหญ่ (ที่ทีเอกลักษณ์แตกต่างกันทั้งสามบ้าน) ได้แก่ ตอนกลางโดยตระกูลฮัตโตริ ตอนบนโดยตระกูลฟุจิบายาชิ ตอนล่างโดยกระกูลโมโมชิตระกูลโมโมชิเป็นผู้สืบทอดวิชา แม้ว่าบางแหล่งบอกว่าซันดายุและฟุจิบายาชิ นากาโตะคือคนเดียวกัน แต่ก็ไม่มีหลักฐานยืนยันแต่อย่างใด

ซันดายุถูกฆ่าตายในปี 1581 จากเหตุการณ์โฮดะ โนบุนากะบุกยังสำนักอิงะ สงครามครั้งนั้นทำให้อิงะและโคกะเกือบสิ้นตระกูล แต่บางตำนานบอกว่า ซันดายุได้หลบหนีการตามล่าของทหารโดยปลอมตัวเป็นชาวนาไปอยู่ที่เมืองคิอิ

3.ฟูมะ โคทาโร่ (Fuma Kotaro)

ฟูมะ โคทาโร่ เป็นนินจาจากสำนักฟูมะ ซึ่งเป็นตระกูลนินจาที่เก่งกาจไม่ซ้ำใคร และชั้นเลิศของยุคจนถึงทุกวันนี้ และเป็นคู่ปรับของตระกูลอิงะ โดยฟูมิ โคทาโร่นั้นได้รับใช้ตระกูลโฮโจ ในโอดะวาระ ส่วนโคทาโร่เป็นผู้นำรุ่นที่ห้าของตระกูลที่มีชื่อเสียงที่สุด และรับใช้ โฮโจ อุจิมาซะ และ โฮโจ อุจินาโอะ ส่วนมากมีหน้าที่เป็นโจร, โจรป่า, โจรสลัด และทำการโจรกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อตระกูลโฮโจ ในฐานะผู้นำ 200 Rappa “วินาศกรรม”
โดยวีรกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดเกิดขึ้นในปี 1580 เมื่อทัพของทาเคดะตั้งค่ายอยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำโอเสะงาว่า กับพื้นที่ของโฮโจ และพยายามโจมตีปราสาทโอดะวาระของโฮโจ แต่ตระกูลฟูมะได้อาศัยตอนกลางคืนแอบแทรกซึมเข้าไปในค่ายของทาเคตะ และก่อความปั่นป่วนไปทั่วค่าย และความวุ่นวายครั้งนี้ทำให้พี่น้องทาเคตะต้องฆ่ากันเอง

อย่างไรก็ตาม หลังจากตระกูลโฮโจได้แตกสลายมาได้ 13 ปี (เพราะพ่ายแพ้แก่ฮิเดโยชิ) ในช่วง 13 ปีนั้นตระกูลฟูมะได้ไปเป็นโจรป่า แต่เรื่องราวของเขาก็ยังคงเป็นตำนาน ในฐานะคู่ปรับของนินจาในตำนานอย่างฮัตโตริ ฮันโซ ซึ่งเป็นคนของสำนักอิงะ และว่ากันว่าเขาเป็นคนสังหารฮัตโตริ ฮันโซ แต่สุดท้าย ในปี 1603 เขาและคนในตระกูลก็ถูกอิเอยาสุจับในปีนี้ และถูกประหารทั้งตระกูล

2. คาโต้ ดันโซ (Kato Danzo)

ตำนานของคาโต้ ดันโซนั้นเต็มไปด้วยความลึกลับ กล่าวกันว่าเขาเป็นนินจาที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 16 ยุคเซนโกคุ มีพลังเหนือธรรมชาติ บางคนเชื่อว่าเขาเป็นพ่อมด จอมเวทย์ตัวจริง เพราะเขาทำสิ่งเหลือเชื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลืนวัวทั้งตัวต่อหน้าฝูงชน การทำให้เมล็ดงอกและกลายเป็นดอกไม้ทันที และยังสามารถบินได้ แม้ว่านักวิจัยจะเชื่อว่าที่เขาทำแบบนี้ได้อาจเป็นเพราะภาพลวงตาที่เกิดจากการสะกดจิตแต่ก็ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดนัก

ตามเอกสารทางประวัติศาสตร์ ไดเมียวอุเอสึงิ เค็นชิน (Uesugi Kenshin) ได้ยินชื่อของดันโซ จึงได้เชิญดันโซมายังปราสาท และเขาก็ขอทดสอบความสามารถของดันโซด้วยการท้าทายให้เขาแอบเข้าไปในปราสาทเพื่อขโมย “ดาบนากินาตะ” (ดาบยาวของญี่ปุ่น) จากนาโอะเอะ คาเนซึงุ (Naoe Kanetsugu) หนึ่งในผู้ติดตามของเขา แน่นอนว่าไม่เพียงแค่ประสบความสำเร็จในการแทรกซึมเข้าไปในปราสาทที่คุ้มกันหนาแน่น และขโมยดาบได้ท่านั้น เขายังได้กับสาวใช้ได้อีกด้วย และนั้นทำให้เค็นชินประทับใจมาก จึงรับตัวเขามารับใช้หากแต่คาเนซึงุได้วางแผนฆ่าดันโซ (ตามตำนานเค็นชินนี้แหละที่วางแผนเพราะเขากลัวดันโซเข้าฝ่ายศัตรูเพราะความเก่งเหนือมนุษย์นั้นเอง) โดยบีบให้ดันโซต้องไปเข้าฝ่ายทาเคดะ ชินเง็นซึ่งเป็นคู่ปรับของเคนชิน หากแต่ชินเง็นคิดว่าดันโซเป็นสายลับสองหน้า จึงสั่งให้เขาฆ่าตัวตาย แต่ดันโซถูกจับและถูกประหารด้วยการตัดศีรษะ ดันโซจึงตายอย่างอนาถ

1.ฮัตโตริ ฮันโซ (Hattori Hanzo)

ผู้นำของ อะเมะงาคุเระ จากการ์ตูนเรื่อง Naruto

ฮัตโตริ ฮันโซน่าจะเป็นนินจาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ผู้ซึ่งเป็นทั้งข้าราชบริพารและซามูไรรับใช้โทคุงาวะ อิเอะยาสุ และเป็นแรงผลักดันสำคัญทำให้อิเอะยะสุกลายเป็นโขกุนปกครองญี่ปุ่นทั้งหมด
ฮัตโตริเกิดเมื่อ ปี 1541 มีชื่อเดิมคือ “มาซานาริ” หรือ “มาซาชิเงะ” เติบโตมาในอิงะ เป็นบุตรของ “ท่านฮัตโตริ ยาสึนางะ” ที่เป็นหัวหน้าของ”กลุ่มนินจาอิงะ” อีกทั้งยังเป็นนักดาบที่คล่องแคล่ว นักวางแผน แล้ว ก็เป็นผู้เชี่ยวด้านการใช้หอก รวมถึง เป็นผู้สำเร็จวิชานินจาขั้นสูงด้วย
ฮัตโตริเริ่มมีบทบาทในช่วง 1582 เมื่อโอดะ โนบุนากะถูกฆ่าตายจากการทรยศอาเคจิ มิตสึฮิเดะ ส่วนอิเอะยาสุต้องหลบหนีจากการล่าของทหาร หากแต่พื้นที่อิเอะยาสุหนีนั้นเป็นเขต “จังหวัดมิคาวะ”เป็นจังหวัดใหญ่ทหารของ”ท่านอาเคจิ” ที่ยังคงตามล่าพวกเขาอยู่ เวลานั้นเองฮันโซจึงเสนอว่าควรใช้เส้นทางลัดตัดผ่าน”หมู่บ้านอิงะ” และนั้นเองทำให้อิเอะยาสุถึงบ้านโดยปลอดภัย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวต่างๆ มากมายเกี่ยวกับฮันโตริ เนื่องด้วยฮํนโตริทำงานอย่างซื่อสัตย์ทำให้เขาได้เลื่อนขั้นเป็นยามพระราชาวังของปราสาทเอโดะ ต่อมาก็เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินของหน่วยงานลับภายใต้ชื่อ โอนิวาบันซู (Oniwabanshu)
แม้ว่าฮัตโตริจะเสียชีวิตในปี 1596 รวมอายุ 55 ปีเชื่อกันว่าฮัตโตริโดน “ฟูมะ โคทาโร่”สังหาร อย่างไรก็ตาม ทายาทของเขาจะใช้ชื่อ “ฮัตโตริ ฮันโซ” จนกลายเป็นประเพณีผู้นำอิงะ จนตำนานของฮันโตริกลายเป็นอมตะไปในที่สุด

References และ Credit
Cammy@dekd
http://listverse.com/2014/02/24/10-amazing-legends-of-ninjas-from-history/

อ่าน Naruto ต่อได้ที่ https://www.niceoppai.net/naruto/